รวม 6 ข้อสงสัย เกี่ยวกับแผ่นกันความร้อนใต้หลังคา ที่ต้องรู้

[Beer625]

เมื่อถึงเวลาต้องเลือกใช้ฉนวนกันความร้อน มือใหม่มักมีคำถามเต็มหัว ไม่ว่าจะเป็น เรื่องประเภท วัสดุ ความหนา หรือประสิทธิภาพการลามไฟ ดังนั้น เราจะพาคุณมาตอบข้อสงสัย เกี่ยวกับแผ่นกันความร้อนใต้หลังคาที่หลายคนอยากรู้ พร้อมอธิบายคำตอบแบบเข้าใจง่ายให้ฟังกัน 
[ol]

• ฉนวนกันความร้อนทำงานยังไง ?

[/ol]
ฉนวนกันความร้อน มีหน้าที่ชะลอการถ่ายเทความร้อน ที่เข้ามาจากหลังคา หรือผนัง โดยอาศัยคุณสมบัติของเนื้อวัสดุ เช่น การสะท้อนรังสีความร้อน การดูดซับความร้อน หรือการกักเก็บอากาศไว้ในช่องว่าง ทำให้ความร้อนเดินทางช้าลงก่อนจะเข้าสู่พื้นที่อยู่อาศัย


พูดง่าย ๆ คือ ฉนวนกันความร้อนจะเข้ามาช่วยทำหน้าที่คล้ายร่ม หรือเสื้อกันแดด เพื่อให้บ้านเย็นลงในหน้าร้อน
[ol]

• ฉนวนกันความร้อนทำให้บ้านเย็นลงได้กี่องศา ?

[/ol]
ส่วนใหญ่แล้ว ฉนวนกันความร้อนจะช่วยลดอุณหภูมิได้ถึง 2 - 5 องศา (ขึ้นอยู่กับวัสดุ ความหนา และสภาพบ้าน) แต่สิ่งที่เห็นผลชัดที่สุด คือแอร์จะทำงานเบาลง ห้องเห็นเร็วขึ้น ลดความร้อนที่สะสมในช่วงบ่าย และลดค่าไฟได้ในระยะยาว
[ol]

• หากเลือกฉนวนกันความร้อนผิดประเภท จะเจอปัญหาอะไรบ้าง ?

[/ol]
ประเด็นที่หลายคนตกม้าตาย เพราะคิดว่าฉนวนก็คือฉนวน เลือกอันไหนก็ได้ แต่ในความจริง วัสดุแต่ละแบบมีลักษณะเฉพาะ และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน หากเลือกผิดอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้
[ol]

• ฉนวนกันความร้อนมีกลิ่นอับเพราะอะไร ?

[/ol]
กลิ่นอับไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะเป็นสัญญาณว่าฉนวนกำลังมีปัญหา และอาจส่งผลถึงคุณภาพของอากาศภายในบ้านได้ด้วย โดยสาเหตุหลัก ๆ มักมาจาก ความชื้นสะสมในฉนวน ฉนวนเสื่อมคุณภาพ ระบบระบายอากาศไม่ดี และการใช้ฉนวนราคาถูก ที่ไม่ได้ผ่านการเคลือบสารป้องกันเชื้อรามา
[ol]

• สัตว์ หรือแมลงเข้าไปทำรัง ในฉนวนกันความร้อนได้ไหม ?

[/ol]
ฉนวนกันความร้อน โดยเฉพาะฉนวนแบบเส้นใย (Fibrous Material) หากติดตั้งไม่ดี หรือไม่ได้ปิดปลายหลังคาให้เรียบร้อย หนู หรือแมลงก็สามารถเข้าไปทำรังได้ อีกทั้งยังทำให้บ้านไม่เย็นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การติดกลับด้าน การติดไม่เต็มพื้นที่ การติดทับท่อไฟฟ้า การไม่เว้นช่องลม หรือการวางฉนวนชิดหลังคาเกินไป ทั้งหมดนี้ล้วนทำให้ประสิทธิภาพของฉนวนลดลงแบบครึ่งต่อครึ่งได้เลยทีเดียว
[ol]

• อายุการใช้งานของฉนวนอยู่ได้นานแค่ไหน ?

[/ol]
โดยทั่วไป ฉนวนกันความร้อนมักมีอายุการใช้งานประมาณ 5 - 6 ปี ซึ่งอาจมาก หรือน้อยกว่านั้นตามชนิดของวัสดุ และสภาพแวดล้อมการใช้งานจริง โดยปัจจัยที่ทำให้เสื่อมเร็วขึ้น ได้แก่ ความชื้นสะสม รอยรั่วบริเวณหลังคา อุณหภูมิสูงที่สะสมต่อเนื่อง รวมไปถึงการติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง ทำให้หลายบ้านจำเป็นต้องตรวจเช็กสภาพฉนวนทุก 2 - 3 ปี เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.ampelite.co.th/